วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

ความผิดพลาดครั้งแรก


   ในชีวิตที่ผ่านมา ผมทำอะไรผิดพลาดไว้มากมาย แต่เมื่อผมล้ม ผมจะพยายามลุกขึ้นมาแล้วบอกตัวเองเสมอว่า ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ผมยึดถือคำพูดนี้มาตลอด มันทำให้ผมมีกำลังใจ ทำให้ผมไม่ยอมแพ้อะไร แม้นั่นจะเป็นโชคชะตาหรือด้วยอะไรก็ตาม
    หลายครั้งที่เจอเรื่องรุนแรงในชีวิต ผมจะตะโกนท้าทายฟ้าว่า....ทำได้แค่นี้เองเหรอ มันไม่ใช่คำท้าทายจริงจังอะไร แต่มันเป็นคำพูดที่จะเตือนตัวเองว่า เรื่องแค่นี้ผมต้องผ่านไปได้แน่ ลองมาอ่านการผิดพลาดครั้งแรกของผมกัน
    ความผิดพลาดครั้งแรกที่ผมจดจำได้ดีคือการถูกรีไทร์ ต้องบอกก่อนเลยว่าผมเป็นคนที่มีผลการเรียนระดับกลางๆมาตลอด ตั้งแต่ประถมจนจบมัธยม ในที่แรกเลยผมชอบศิลปะมากและอยากเข้าเรียนต่อที่ช่างศิลป์ แต่ทางบ้านแน่ะนำให้เรียนสายช่างกลจะดีกว่า จะได้จบออกมามีงานทำแน่นอน ซึ่งผมเองไม่อย่าเรียนเลย และเป็นคนที่ไม่ชอบคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษเอาเลยจึงเลือกจะเรียนศิลปะ แต่แม่ผมบอกว่าเรียนอิเล็คทรอนิคส์สิ เลขกะภาษาอังกฤษน้อยมาก ซึ่งตอนนั้นผมไม่รู้จริงๆว่าอิเล็คทรอนิคส์คืออะไร (พอเรียนจริงๆทั้งเลขทั้งอังกฤษเพียบ)
    และจากการโดนบังคับให้มาสอบโรงเรียนอาชีวชื่่อดังย่านลาดพร้าว ทำให้ผมแกล้งทำข้อสอบมั่วๆ ข้อสอบ100ข้อ ผมใช้เวลาทำแค่10นาที อย่างที่คาดคือสอบไม่ผ่านครับ แต่อย่าคิดว่าจะรอดน่ะ..ที่นี่มีให้สอบใหม่ทันทีจนกว่าจะผ่าน ที่สุดผมก็เลยต้องเรียนอิเล็คทรอนิคส์
   เรื่องโดนรีไทร์เกิดกับผมตอนผมจบปวช.แล้วเข้าเรียนระดับ ปวส.ต่อเลย โดยมีเพื่อนที่เรียนปวช.ด้วยกันจำนวนมากเรียนต่อพร้อมกัน ตอนนั้นผมจะมีเพื่อนสนิทที่มักไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยมากๆ เพื่อนคนนี้ชื่อเอ เอเป็นคนที่มีรูปร่างหน้าตาดี เรียกว่าหนุ่มHotเลยก็ว่าได้ มีสาวๆมากรีีดแยอะ ผมเองก็เลยได้ส่วนบุญจากความHotของเพื่อนไปด้วย
   ผมและเอเป็นคนชอบเที่ยว กิน ดื่มเหมือนกัน ตอนเรียนปวส.ปี1ผมและเพื่อนจะแถบไม่ได้เข้าเรียนกันเลยที่เดียว เราจะอยู่ตามร้านแถวโรงเรียน เซ็นทรัล และไปตามมหาวิทยาลัยเพื่อหลีสาว กิจวัตประจำวันตั้งแต่เช้าของเราคือ มาร้านชื่อcoconut ซึ่งเป็นร้านขายอาหารเครื่องดื่ม กาแฟอะไรแบบนั้น ผมและเพื่อนก็จะสิงสู่อยู่ที่นั่นในช่วงเช้า สายๆก็ไปร้านอาหารตามสั่งหรือตามโรงเรียนพาณิชย์ มหาวิทยาลัยหรือห้างเพื่อรับแอร์และชมวิว คงมีคำถามว่าแล้วไม่เรียนกันเหรอ....เรียนครับ เข้าห้องเรียนบางนิดหน่อย เข้าไปก็ชวนเพื่อนคุยให้แกล้งอาจารย์
   สิ่งที่ผมและเอชื่นชมคือเหล้า กินกันทุกวัน ทุกเวลา ทุกสถานที่ จนผมไม่แน่ใจว่าที่ไหลอยู่ในเส้นเลือดมันคือเลือดหรือเหล้า ถัดมาจากเหล้าก็จีบสาวซึ่งผมก็อาศัยเอนี่ล่ะครับที่หน้าตาหล่อ มีสาวๆเป็นกลุ่มเอกับผมก็จะเข้าไปคุยด้วย อาศัยที่เอหล่อสาวๆก็อยากคุยด้วย ถ้าเฉพาะเอาหนังหน้าผมเข้าหาสาว ผมว่าสาวๆจะวิ่งหนีกันสะมากกว่า
   และจากการที่เราเอาแต่กินกับเที่ยวอย่างที่บอกไปแล้ว ทำให้เราทั้งคู่ไม่มีเวลาเรียนในห้องและถูกตัดสิทธิ์เข้าสอบหลายวิชา โดยในเทอมแรกผลการเรียนของผมแย่มากและเกรดออกมามหัศจรรย์มากด้วย ไม่รู้ได้เกรดมาได้ไงคือ 0.60 อาจเป็นเพราะมีบางวิชาที่ผมได้เข้าสอบ และแน่นอนเอ เพื่อนรักของผมก็ไม่แตกต่างกันนัก
   ผ่านเทอมแรกไปเรียนเทอมสอง อย่าคิดน่ะครับว่าเกรดที่ออกมาจะทำให้ผมสำนึก ผมยังทำตัวเช่นเดิม กินเที่ยว และกินเหล้าจนแทบไม่ได้เข้าเรียนเลย เรายังคงวนเวียนตามห้างและสถานที่ที่มีสาวอยู่เหมือนเดิม เมื่อถึงวันสอบกลางภาคและปลายภาค ไม่ต้องบอกคงรู้นะครับว่าผมและเพื่อนไม่มีสิทธิ์สอบแยอะแค่ไหน
   และแล้วผลการเรียนก็ออกมา เกรดเฉลี่ยผมแค่0.36และเพื่อนผมก็มีสภาพเดียวกัน และที่แย่กว่านั้นคือเราโดนรีไทร์เพราะเกรดเฉลี่ยไม่ถีงเกรดที่กำหนด ผมกลับบ้านไปแบบกลัวๆ ไม่รู้จะบอกพ่อแม่ยังไงแต่สุดท้ายก็ต้องบอก พ่อกับแม่ผมท่านก็มีดุบางแต่ท่านจะสอนจะมากกว่า ว่าอนาคตจะเป็นไงถ้าจบแค่ปวช.และคำสอนอีกมากมาย ท่านอยากให้ผมปรับตัว...แม่ร้องไห้และขอผมว่า ให้ผมตั้งใจเรียนได้ไหม ให้จบปวส.และจะเรียนต่อหรือไม่ก็จะไม่ว่าอะไรอีกเลย
    ผมรู้สึกว่าผมทำผิดมากๆที่ทำให้พ่อแม่ผมเสียใจ มันเป็นความผิดพลาดที่ผมเป็นคนทำกับตัวผมเอง ผมบอกตัวเองว่าผมจะเรียนให้จบปวส.อย่างที่รับปากแม่ไว้ ความผิดพลาดครั้งแรกของผมเกิดจากความสนุกและหลงระเริงของตัวผมเอง ทั้งๆที่แค่ผมเข้าห้องเรียน และไปสอบ ผมก็สามารถผ่านไปได้แบบสบายๆแต่ผมกลับไม่ทำ ผมกลับไปเรียนที่อาชีวเดิม เพื่อนๆที่เคยเรียนด้วยกันขึ้นปี2กันหมด เหลือไว้แต่ผมและเอ ใช่ครับผมและเอกลับมาเรียนต่อและเราอยู่ห้องเดียวกันอีก และยังเป็นคู่แสบเหมือนเดิม แต่คราวนี้..เราเข้าเรียน และเรียนผ่านด้วยเกรดเฉลี่ย2กว่า แม้เรายังจะมีเที่ยว มีเล่นบ้าง แต่เราก็เรียนจนจบปวส.มาได้
   อย่างที่ผมบอกไว้ตอนต้นครับ ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ผมทำตัวผิดพลาดไปและผมก็แก้ไขตัวเอง ทุกอย่างเป็นไปได้ถ้าเราพยายาม และการผิดพลาดของผมครั้งแรกนี้เป็นบทเรียนที่ผมเอาไว้สอนตัวผมเองเสมอ ผิดแล้วเริ่มใหม่ได้ ขอแค่อย่ายอมแพ้

ยังมีเรื่องราวต่อจากนี้อีกมากที่ผมอยากเล่า มันเป็นการเล่าประสบการณ์ของผมที่ผ่านมา และอาจเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยสำหรับใครบางคน คอยติดตามอ่านกันต่อน่ะครับ

ปล. ถ้าเอได้มาอ่าน ก็ขออนุญาติที่เอ่ยถึงไว้ณ.ที่นี้ด้วยนะครับคุณเพื่อน

2 ความคิดเห็น:

  1. เว่อไปละมึง หล่อตายห่าหละ อายคนอื่นที่เข้ามาอ่านมั่งสิวะ
    แล้วไปเมาอะไรขนาดนั้น มั่วใหญ่แล้วมึง อยู่กันแต่โต๊ะดราก้อน ไม่ยอมเข้าไปเรียน
    เล่าประวัติให้มันถูกหน่อยสิ ไม่ได้เล่านิทานนะเฟ้ย

    ตอบลบ
  2. ไปกินกันหน้าหอวัง กินร้านcoconut ไม่ถูกเหรอว่าแต่โต๊ะดราก้อนมันอยู่ไหนอ่ะจำไม่ได้ แถมมีตะเวณไปหลายๆที่เลย อยู่เซนทรัลทั้งวัน แล้วมันไม่ตรงยังไงฟ่ะ นิทานอ่ะเล่าไม่เป็น เป็นแต่เขียนเรื่องจิง ไอ้หน้าหล่อ 555+

    ตอบลบ