วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557

2ล้อของผม



    ผมหลงไหลในเสน่ห์ของสองล้อมาตั้งแต่วัยรุ่น เริ่มตั้งแต่เรียนปวช.มอเตอร์ไซด์คันแรกของผมเป็น ยี่ห้อ ฮอนด้า โนวา(NOVA) เป็นพาหนะคู่ใจที่พาผมไปทั้งเรียนและเที่ยวเตร่ ก็ตามนิยมวัยรุ่นชายที่ชอบเป็นสิงห์นักบิด แต่ผมไม่เน้นเร็วหรือเสียงดังน่ะ เน้นขับดูสาวมากกว่า คือตอนนั้นถ้ามีรถมอเตอร์ไซด์นี่สาวมองตามเลยน่ะ นี่เป็นสิ่งแรกที่อยากได้มอเตอร์ไซด์ แต่แม่ผมจะเป็นห่วงมากในตอนแรกคัดค้านเต็มที่ว่าไม่ว่ายังไงก็ไม่ซื้อให้เด็ดขาด ด้วยความคะนองของผม วันนึงผมแอบขโมยรถมอเตอร์ไซด์ของพี่ชายไปขับ และด้วยยังขับไม่แข็งและรถมีขนาดใหญ่เกินตัว ทำให้รถมอเตอร์ไซด์คันนั้นล้มและสตาร์ไม่ติดเลย ทำไงล่ะที่นี้...ครับทำไรไม่ได้นอกจากเข็นกลับบ้าน ลองนึกตามว่าคนตัวเล็กๆขาเจ็บ แขนถลอกต้องเข็นรถมอเตอร์ไซด์คันใหญ่กว่าตัวกลับบ้าน ซึ่งเดินเข็นรถจากปากซอยเข้าบ้านระยะทางประมาณ 1.5กม. สุดๆของความเหนื่อยเลยล่ะครับ แถมกลับมาโดนดุที่แอบเอารถออกไปและล้มกลับมา พี่ชายผมก็ดีใจหายไม่ว่าผมสักคำ คงเพราะเห็นน้องเจ็บกลับมาด้วย(ขอบคุณพี่หนึ่งน่ะครับที่ไม่ดุ) และนั่นทำให้แม่เห็นว่าห้ามผมไปก็เท่านั้น และยอมซื้อมอเอตร์ไซด์ให้ผม
    พอผมเริ่มเข้าทำงานก็มีโอกาสได้เปลี่ยนมอเอตร์ไซด์คนใหม่ ตอนนั้นเพื่อนผมที่ชื่อเป๊ะ ขับมอเตอร์ไซด์แนวชอปเปอร์ เท่าที่จำได้น่าจะเป็น NV400 นั่นกระตุ้นให้ผมอยากขับชอปเปอร์ขึ้นมาในทันใด มอเตอร์ไซด์แนวนี้ส่วนใหญ่ในไทยจะเป็นของมือ2มาจากญี่ปุ่น ในที่สุดผมก็ได้ชอปเปอร์มาจนได้ นั่นคือ HONDA รุ่นRebel ตัวพิเศษเป็นคาร์บูเรเตอร์คู่ พอมีมอเตอร์ไซด์แล้วชุดแต่งกายก็ต้องตามมา รถมอเตอร์ไซด์แนวนี้ก็ต้องแต่งให้เข้ากะรถหน่อย ผมเลือกแต่งด้วยเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์และรองเท้าบูตยาวถึงหน้าแข้ง และที่ขาดไม่ได้เลยคือผมยาวเวลาขับรถที่ผมงี้พริวไปตามสายลมเลยครับ ไว้ยาวสุดก็ถึงเข็มขัดน่ะครับ เป็นไอ้หนุ่มผมยาวเลย
    สมัยนั้นยังไม่มีกฎหมายใส่หมวกกันน๊อค เลยปล่อยผมเต็มที่แต่ก็มีบ้างที่ผูกผมเปียหางม้า และบางที่ต้องอยากสวยบ้างเลยผูกผมแกะสองข้างมันสะเลย ผมว่าตัวผมแนวสุดๆเลยน่ะแต่คงอื่นมองอาจดูแปลกๆสักหน่อย ตอนเรียนมหาวิทยาลัยผมเดินกับเพื่อนชายอีกคนที่ไว้ผมยาวพอๆกัน มีรถบรรทุกขับผ่านมาจากด้านหลังแล้วตะโกนแซวว่า ไปไหนเหรอจ๊ะน้องสาว พอเห็นหน้าผมและเพื่อนเท่านั้นล่ะ เสียงแซวหายไปทันทีพร้อมเร่งเครื่องรถบรรทุกออกไปอย่างรีบร้อน
    หลังจากนั้นก็เริ่มขับรถยนต์และก็ขับรถยนต์อยู่หลายปี แต่ความรู้สึกบอกว่าผมอยากขับมอเอตร์ไซด์มากกว่า นั่นทำให้ผมมองหายมอเตอร์ไซด์ในสไตล์ที่ผมชอบอีกครั้ง...ยังจำเป๊ะเพื่อนของผมได้ใช่ไหม๊ครับ เพื่อนคนนี้ล่ะที่เป็นเหมือน Idol ในเรื่องมอเอตร์ไซด์ของผม เป๊ะเป็นคนที่หลงไหลสองล้อเช่นกัน ขนาดว่ามีมอเตอร์ไซด์ในครอบครองพร้อมกันที่เดียว4คัน4สไตล์ คนที่ไม่ชอบสองล้ออาจมองว่ามีทำไมเยอะแยอะ แต่นี่ล่ะครับคนรักมอเตอร์ไซด์ตัวจริง ตอนนั้นเป๊ะขับมอเตอร์ไซด์ KSRจากยี่ห้อ Kawasaki เป็นรถแนวโมตาด คือเป็นรถวิบากที่วิ่งทางเรียบน่ะครับ เมื่อผมเห็นเข้าก็บอกตัวเองทันทีว่านี่ล่ะตัวผม
    และแล้วผมก็ได้ครอบครองเจ้าKSRสีแดง(ตัวในรูปบนสุดเลยครับ)มาจนได้ มีเข้ากลุ่มกับคนรักKSRด้วยน่ะครับ เรื่องแต่งรถไม่ต้องพูดถึง เปลี่ยนเกือบหมด ไม่ว่าจะเป็น แฮนด์ ปลอกมือจับ ไฟเลี้ยว ไฟท้าย ท่อเรียกได้ว่าอะไรเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยนหมด ผมรู้สึกถึงความสุดที่กลับคืนมาอีกครั้ง การได้ขับมอเตอร์ไซด์ไปตามท้องถนน มันเป็นความสุขจริงๆแม้ว่าจะต้องใส่หมวกกันน๊อตก็ตาม
 
   เมื่อเริ่มแล้วจึงหยุดไม่ได้ ผมได้ขยับมาขับรถที่ใหญ่ขึ้น(สูงขึ้นด้วย) แต่เป็นแนวโมตาดเหมือนเดิม นั่นคือ Dtracker 150 ยี่ห้อ Kawasaki มันอาจดูไม่ใหญ่โตไรมากนักแต่สูงสำหรับคนตัวเล็กแบบผม มันเป็นความสุขใจจริงๆที่ได้ขับขี่มอเอตร์ไซด์ไปที่ต่างๆ แม้ผมจะมีรถยนต์ด้วยแต่ผมเลือกที่จะขับมอเตอร์ไซด์มากกว่า มันเหมือนผมเสพติดสองล้อจนไม่อาจทอนตัวได้ ต้องขอบคุณเพื่อนเป๊ะที่คอยให้ความรู้และเป็นกูรูในเรื่องมอเตอร์ไซด์ให้ผม ไม่ว่าจะเรื่องรถหรือการแต่งตัวก็ตาม
    ผมไม่ได้เน้นการขับขี่แบบเร็วหรือแข่ง ไม่เน้นในเรื่องท่อเสียงดังน่ารำคาญ แต่ผมชอบที่จะขับขี่มอเตอร์ไซด์ไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะไปทำงานหรือเที่ยวเล่น ชอบที่ให้สายลมไหลผ่านตัว ชอบที่จะวิ่งไปอย่างอิสระ การขับขี่มอเตอร์ไซด์ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังขี่ม้าวิ่งไปในทุ่งกว้างเลยที่เดียว ขอบคุณที่โลกนี้มีมอเตอร์ไซด์เพราะนี่ล่ะครับ ความสุขอีกส่วนในชีวิตผม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น