วันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2557

ก้าวแรกของชีวิตคนทำงาน

 
    เมื่อเราเติบโตขึ้น เราต้องหางานทำนั่นคือสิ่งที่เป็นไปของชีวิต เป็นการเริ่มก้าวจากเด็กเป็นผู้ใหญ่ ผมเองก็เช่นกัน เพียงแต่ผมเริ่มก้าวเดินตั้งแต่ผมยังเรียนไม่จบ ปวส. และก้าวที่ผมเริ่มต้นนั้นเป็นย่างก้าวที่นำพาผมมายังจุดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
    ผมเคยเล่าเรียนที่ผมโดนรีไทร์มาให้ฟังแล้ว และนั่นทำให้ผมเรียนจบช้ากว่าเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันมา 1ปี และจากเพื่อนที่จบก่อนนี่ล่ะที่แน่ะนำงานในช่วงเรียนให้ผมทำ หนุ่มคือเพื่อนในสมัยเรียนอาชีวที่ชักพาผมมาสู่อาชีพนี้ หนุ่มทำงานกับบริษัทหนึ่งที่ทำรายการวิทยุFM โดยมีหน้าที่คือประสานงานรายการ ไม่ว่าจะเป็นรับโทรศัพท์ผู้ฟังรายการ ดูแลเรื่องรายการในส่วนต่างๆ หรือบางที่ก็เปิดเพลงแทนDJ
    ผมเริ่มเข้าไปทำครั้งแรกเป็นฟรีแลนซ์ในการเปิดเพลง คือเมื่อมีคนขาดหรือลาก็จะตามผมให้ไปเปิดเพลงแทน เท่าที่จำได้คือชั่วโมงละ21บาท มันเป็นงานแรกที่ผมภาคภูมิใจ ในสมัยนั้นการเปิดเพลงในสถานีวิทยุจะเป็นการเปิดเพลงจากแผ่นเสียง ซึ่งในยุคนี้ไม่ค่อยได้เห็นแล้วกลายเป็นของหายากไปสะแล้ว
    ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพลงสากลในยุค60-80 เป็นเพลงสากล และส่วนมากก็จะเปิดในช่วงกลางคืนด้วย มันเป็นการเริ่มต้นการทำงานในสื่อวิทยุของผม ผมภาคภูมใจกับงานที่ผมทำ ภาคภูมิใจกับเงินที่หามาได้ด้วยตัวเอง แม้มันจะไม่มากมายอะไรแต่ผมก็ได้เริ่มต้นการใช้ชีวิตการเป็นผู้ใหญ่
    ต่อมาผมได้เริ่มมาทำประจำโดยเป็นประสานงานรายการเหมือนหนุ่มและเป๊ะ ที่จบและมาทำงานที่นี่ก่อนผม และด้วยรายการวิทยุมีตลอด24ชั่วโมง เราจึงมีการเข้าเวรในแต่ละวันเป็น3กะ คนละ8ชั่วโมงและมีการสลับกันหยุด ตอนนั้นผมประสานงานอยู่ที่FM.88 คลื่นสุดท้ายซ้ายสุด ซึ่งเป็นรายการวิทยุที่เปิดเพลงทั้งไทยและสากล โด่งดังมากๆในตอนนั้น หน้าที่ส่วนใหญ่ของเราก็รับสายผู้ฟังที่โทรเข้ามาคุยในรายการ ดูแลการเปิดสปอต ดูแลเรื่องเวลาการออกอากาศรายการ รวมถึงเปิดเพลงแทนในช่วงที่DJยังไม่มาหรือหยุด มันเป็นการเริ่มต้นการทำงานในสายงานวิทยุแบบจริงจัง โดยพี่แนนเป็นหัวหน้าคอยดูแลพวกผมอีกที
    ผ่านไปไม่ถึงปี บริษัทที่ผมทำก็มีการเปิดส่วนงานเทคนิค ผม หนุ่ม และเป๊ะจบสาขาอิเล็คทรอนิคส์มาจึงได้รับการคัดเลือกให้มาทำงานส่วนงานเทคนิค เราทำงานกันเป็นกะแบบเดียวกับประสานงานรายการหน้าที่หลักก็ดูแลเครื่องส่งออกอากาศวิทยุ อุปกรณ์ในห้องออกอากาศ และนั่นคือจุดเรื่องต้นอาชีพช่างเทคนิคระบบการออกอากาศวิทยุของผมและเป็นอาชีพที่ผมทำอยู่ในปัจจุบัน
    บริษัทนี้เหมือนโรงเรียนสำหรับสอนอาชีพผมเลยที่เดียว มีครูหลายท่านทีได้สั่งสอนในการทำงานผมมา ของเอ่ยชื่อดังนี้ IBคือเจ้านายและเจ้าของบริษัทBNTและMedia Plus เป็นคนที่นำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาสู่วงการวิทยุไทยบ้านเรา อาจารย์อาจที่เชี่ยวชาญระบบเครื่องส่งออกอากาศ พี่กิตติผู้เชี่ยวชาญระบบอากาศและอุปกรณ์การออกอากาศวิทยุ และพี่หนุ่ม(พรชัย)ที่เป็นหัวหน้า เป็นอาจารย์และพี่ที่ได้ให้โอกาสผมและนำผมเข้าสู่อาชีพนี้ กราบขอบคุณทุกท่านที่กล่าวมานี้ ถ้าไม่มีพวกท่านเหล่านี้คงไม่มีโจในวันนี้เช่นกัน
    อย่างที่บอกว่าที่นี้เหมือนดังโรงเรียนสอนอาชีพ ที่นี่ได้สอนความรู้ในเรื่องของการทำวิทยุทั้งหมด เป็นที่นำเทคโนโลยีใหม่ๆมาสู่วงการวิทยุไทย เป็นผู้ที่ริเริ่มการจัดรายการนอกสถานที่ และยังเป็นที่ผลิตบุคคลกรที่ทำงานด้านวิทยุที่มีคุณภาพมากมาย ผมภูมิใจมากที่ได้มีโอกาสได้เข้ามาทำงานที่นี่
    อย่างที่ได้เล่ามาครับ ที่นี่เป็นที่ๆทำให้ผมเป็นผมจนถึงทุกวันนี้ มีครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนผมหลายท่าน ไม่ใช่ในเรื่องของการทำงานเท่านั้น ผมได้รับการสั่งสอนในเรื่องวินัย ความรับผิดชอบ รวมถึงได้คิดในการก้าวเดินไปข้างหน้าด้วย ยังมีเรื่องราวที่ผมอยากพูดถึงสำหรับโรงเรียนอาชีพของผมแห่งนี้ อยากเล่าถึงผู้มีพระคุณหลายท่านที่ทำให้ผมเติบโตมาในสายอาชีพนี้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งจะมาเล่าต่อไปในตอนต่อไปแน่นอน
    และนี่เป็นก้าวแรกในการเริ่มชีวิตการทำงานของผม ผมอาจเป็นคนโชคดีที่ได้เข้ามาในบริษัทที่ดี ที่นี่เหมือนครอบครัว เราอยู่กันแบบพี่น้อง มีเรื่องทั้งสุขทั้งเศร้าเรื่องฮามากมาย ติดตามชีวิตในการทำงานของผมต่อในตอนต่อไปน่ะครับ


กราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนผมมาให้ผมเติบโตอยู่ในวงการนี้ได้จนถึงทุกวันนี้ และขอขมาในสิ่งใดก็ตามที่ผมได้ล่วงเกินทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ขอบพระคุณครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น