วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557

ความรักของSuperHero(ของผม)


   วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องความรักที่น่าประทับใจ เป็นเรื่องราวของการใช้ชีวิตคู่ที่แม้จะไม่โรแมนติกนัก แต่ผมเชื่อว่าเมื่อได้อ่านจนจบ คงมีคนที่จะบอกออกมาว่า อยากมีความรักแบบนี้จัง
   เรื่องราวความรักครั้งนี้คือเรื่องราวความรักของพ่อแม่ผมเอง ท่านเป็นแบบอย่างความรักที่ดีสำหรับผม และเป็นความรักที่ผมปราถนาอย่างยิ่ง ลองมาอ่านดูกันน่ะครับ
   พ่อผมเป็นคนกรุงเทพ ครอบครัวมีฐานะไม่ค่อยดีนัก พ่อเล่าให้ฟังว่าพ่อเป็นกำพร้าตั้งแต่เด็ก คุณปู่เสียชีวิตไปเหลือเพียงคุณย่าที่คอยเลี้ยงลูกๆอีก6คน พ่อผมเป็นพี่ชายคนโต พ่ออยากเรียนหนังสือมากต้องออกมาอยู่บ้านญาติเพื่อมาเรียนโรงเรียนวัด พ่อผมเรียนจบแค่ป.6
   แม่ของผมเป็นคนนครนายก ที่บ้านก็ฐานะไม่ดีเหมือนกัน บ้านแม่มีพี่น้องสองคน แม่เป็นคนเล็ก ด้วยฐานะที่ไม่ดีเท่าไร แม่จึงเรียนจบแค่ป.4 โดยสมัยนั้นมีความเชื่อว่า ผู้หญิงไม่ต้องเรียนสูงนักก็ได้ เดียวก็แต่งงานมีครอบครัว อยู่บ้านเลี้ยงลูกเท่านั้น
    ผมจะขอข้ามเรื่องชีวิตความลำบากของพ่อแม่เอาไว้ก่อน มีโอกาสจะมาเล่าอีกครั้งหนึ่ง แต่สิ่งที่ผมจะเล่าวันนี้ คือความรักของพ่อและแม่ ที่คอยดูแลซึ่งกันและกันมา พ่อกับแม่มีนิสัยที่ไม่ได้เหมือนกันเลย พ่อเป็นคนที่ชอบอยู่บ้าน ไม่ชอบงานสังสรรใดๆชอบอยู่บ้านปลูกต้นไม้ ส่วนแม่ผมเป็นคนที่ชอบเที่ยวตามสถานที่ต่างๆเช่นน้ำตก ทะเล ภูเขา แต่ทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตกันมาจนแก่เฒ่า มีบางที่พ่อแม่ทะเลาะกัน แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ผมจะได้ยินคำด่ากัน แม้จะมีพูดเสียงดังกันบ้างก็ตาม
   พ่อแม่ผมมีโรคประจำตัว ซึ่งก็เป็นไปตามวัยน่ะ พ่อเป็นโรคหัวใจ แต่แม่สิเป็นแยอะมาก ทั้งหัวใจ ความดัน ไต เบาหวาน มีครบเลยที่แม่ผม ทั้งคู่ต่างดูแลกันและกันเป็นอย่างดี และด้วยที่แม่เป็นหลายโรคมาก ก็จะมีการเข้าโรงพยาบาลบ่อยในช่วงอายุมากนี้ มีหลายครั้งที่แม่ต้องนอนโรงพยาบาล ซึ่งทุกครั้งพ่อผมจะไปดูแลแม่เสมอ
   ในช่วงหลังๆแม่มักมีอาการไม่ดีบ่อยและต้องเข้ารักษาที่โรงบาลที่ละหลายวัน บางครั้งเกือบเดือนเลยที่เดียว ทุกครั้งพ่อผมจะเป็นคนไปอยู่กับแม่ที่โรงพยาบาล ไปตั้งแต่เช้าและกลับช่วงเย็น ทั้งๆที่พ่ออายุมากแล้วและต้องทานยาเป็นประจำต้องพักผ่อนเพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์ แต่พ่อก็ไปหาแม่ที่โรงพยาบาลทุกวันไม่มีเว้น คอยไปคุยอยู่เป็นเพื่อนแม่ตลอด ด้วยเหตุผลคือแม่จะได้ไม่เหงาจะได้มีกำลังใจ
   อย่างที่บอกว่าแม่เป็นหลายโรคมาก ในช่วงที่อยู่บ้านก็ยังต้องมีฉีดยามีถังออกซิเจนมีอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นเบื้องต้นในการดูแลแม่ พ่อจะคอยดูแลแม่อยู่เสมอ คอยบอกเรื่องการกินอาหารเพราะแม่ชอบกินอาหารรสจัด ซึ่งไม่ดีต่อไตและสุขภาพ
   ในช่วงที่แม่มีอาการหนัก ต้องเข้ารักษาตัวในห้องICUและCCU พ่อจะคอยอยู่ข้างๆแม่เสมอ พ่อไม่เคยนึกรังเกียจที่จะเช็คตัวหรือทำความสะอาดให้แม่ ลองนึกถึงตายายที่อยู่ดูแลกันในช่วงยามเจ็บป่วย แม้จะเป็นเรื่องเศร้าแต่ในความเศร้านั้น กลับมีเรืองที่น่าประทับใจแฝงอยู่ พ่อไปหาแม่ที่โรงพยาบาลทุกวันคอยพูดคุยและให้กำลังแม่เสมอ ช่วงที่แม่ยังทานอาหารได้ อาหารที่เอามาให้ทานมักจะเป็นอาหารจืดๆ ซึ่งแม่ผมไม่ชอบเลย พ่อก็จะกินให้แม่ดูว่าก็กินได้นี่ แม้อาหารจะไม่อร่อยแต่ก็ต้องกินเพื่อร่างกาย
    แม่เคยพูดว่าไม่ไหวแล้ว ทรมาน พ่อมักจะบอกให้อดทน ภาพที่ผมมักเห็นตอนแม่อยู่โรงพยาบาลคือ พ่อคอยนวดตามแขนขาให้แม่ จับให้แม่พลิกตัวบ้างเพราะแม่ลุกไปไหนไม่ได้แล้ว คอยเช็คหน้าเช็คตาให้แม่ หวีผมให้แม่ ทาแป้งให้แม่
   ตลอดเวลาที่แม่รักษาตัวในโรงพยาบาล จะมีพ่ออยู่ข้างๆเตียงแม่เสมอ จนวันที่แม่ผมเสียชีวิต .... แม้ผมจะไม่เคยเห็นน้ำตาพ่อเลยก็ตาม แต่ผมรู้สึกได้ว่าพ่อเสียใจแต่พ่อก็บอกผมว่า ให้แม่ไปแบบนี้ล่ะดีแล้ว แม่จะได้ไม่ต้องทรมานอีก
    ผมได้เห็นความรักที่พ่อแม่มีให้กัน ต่อสู้และอดทนมาด้วยกันไม่ว่าจะสุขจะทุกข์ ดีใจหรือเสียใจ ทั้งคู่อยู่ดูแลกันจนลมหายใจสุดท้าย คำบรรยายใดๆคงไม่อาจบอกได้หมดถึงสิ่งที่ผมได้เห็นได้รับรู้ ผมรู้แต่เพียงว่า ผมอยากให้ครอบครัวผมดูแลกันแบบที่พ่อดูแลแม่ รักกันจนวันสิ้นลมหายใจ
    ทุกวันนี้ ผมยังเห็นพ่อคุยกับรูปของแม่เสมอ พ่อมักจะยืนคุยกับรูปของแม่และเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง เหมือนว่าแม่ยังมีชีวิตอยู่ ผมไม่รู้หรอกว่าพ่อรู้สึกยังไงหรือแม่จะได้ยินที่พ่อพูดไหม แต่สิ่งที่ผมรับรู้ได้คือความรัก ความรักที่พ่อมีให้แม่และผมก็เชื่อว่า หากสลับกันแม่ก็คงจะดูแลพ่อเช่นเดียวกับที่พ่อทำ


การได้พบและรักกันนั้นว่ายากแล้ว แต่การรักษาความรักนั้นเอาไว้ยิ่งยากกว่า ผมอยากให้ทุกๆท่านที่ได้อ่านเรื่องนี้ ได้เห็นมุมมองในการรักษาความรักของกันและกัน การดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน บอกรักกันทุกวันน่ะครับ ก่อนจะไม่มีโอกาสได้บอกอีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น