วันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2557

ความสำเร็จในชีวิต



    ในการทำงาน ผมเชื่อว่าทุกคนมีความหวังในที่จะก้าวหน้าในหน้าที่การงานของตัวเอง ผมก็เช่นกันครับผมคาดหวังในการทำงานไว้อย่างมาก โดยตั้งเป้าหมายในการทำงานอย่างชัดเจน และพยายามที่จะก้าวไปให้ถึงจุดหมายให้ได้
    ในช่วงแรกๆของชีวิตการทำงานของผมเป็นการปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบชีวิตใหม่ ที่ต้องไปทำงาน รับผิดชอบ และก้าวเดินไปข้างหน้าให้ได้ เมื่อเริ่มตั้งตัวได้แล้วผมก็เริ่มตั้งเป้าหมายอนาคตการทำงาน ในช่วงปีแรกผมเป็นเพียงเจ้าหน้าที่เทคนิคธรรมดาๆ แต่ผมตั้งเป้าไว้ว่า ในเวลา3ปี ผมจะเป็นSupervisor และภายใน6ปีผมจะเป็นManager มันเป็นช่วงไฟแรงของการทำงานก็ว่าได้ แต่เป้าหมายนี้ผมได้แรงบรรดาลใจมาจากหัวหน้าผมครับ พี่หนุ่ม(พรชัย)หัวหน้าที่สอนให้ผมตั้งเป้าหมายชีวิต สอนการทำงานต่างๆให้ผม และเป็นผู้มอบโอกาสเหล่านั้นให้ผม
    ในฝ่ายเทคนิคของเรา เริ่มแรกก็จะมีกัน4คน(ไม่รวมพี่หนุ่มพรชัยน่ะครับ) ตอนนั้นเท่าที่จำได้มี หนุ่ม(เพื่อนที่เรียนอาชีวมาด้วยกัน) เป๊ะ(เพื่อนที่เรียนอาชีวมาด้วยกัน) หนุ่ย และตัวผม เป็นการเข้างานเป็นกะ วันละ3กะต่อวัน มีหน้าที่ดูแลเครื่องส่งและห้องออกอากาศวิทยุ เมื่อทำงานไปเรื่อยๆ งานเริ่มขยาย เรามีรายการทั้งวัน3สถานีและเพิ่มเป็น5สถานี โดยที่เราจะต้องไปทำงานที่สถานีวิทยุซึ่งอยู่ในกรมประชาสัมพันธ์ ไม่ได้อยู่ที่ออฟฟิต
    หลังจากนั้นได้มีการปฏิวัติวงการวิทยุโดยการ ทำห้องจัดรายการที่ออฟฟิตและยิงสัญญาณดาวเทียมไปที่สถานีหลักที่กรมประชาสัมพันธ์เพื่อออกอากาศ ซึ่งยังไม่เคยมีใครทำในประเทศไทย ที่ทำแบบนั้นเพราะจะได้จัดการในเรื่องต่างๆได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเชิญแขกมาสัมภาษณ์ในรายการ หรือการจัดการระบบห้องออกอากาศได้อย่างไม่มีข้อจำกัด เพราะเดิมที่อยู่ที่สถานีหลัก จะทำอะไรก็ต้องทำหนังสือขออนุญาติเสียก่อน ซึ่งยุ่งยากและใช้เวลามาก
    และเมื่อมีห้องจัดรายการที่ออฟฟิตแล้ว จึงต้องมีการเพิ่มจำนวนทีมเทคนิคเพื่อรองรับการทำงาน นั่นคือพวกผมรุ่นแรกๆก็จะเลื่อนไปเป็นSupervisor ซึ่งจะมีการเพิ่มทั้งตัวลูกทีมและหัวหน้าทีม เป๊ะที่เคยทำงานเทคนิคมาด้วยกัน มีความชอบส่วนตัวในการทำรายการมากกว่าเป็นช่างเทคนิค จึงผันตัวเองออกไปเป็นผู้จัดรายการ ส่วนหนุ่ยซึ่งไม่ได้จบทางอิเล็คทรอนิคส์ก็ยังทำงานในส่วนของประสานงานรายการ ในตอนนั้นมีการแยกทีมงานออกชัดเจนไปส่วนงานต่างๆ ผมเป็นSupervisor Operation มีหน้าที่หลักคือดูแลห้องออกอากาศและการออกอากาศ หนุ่มเป็นSupervisor Network มีหน้าที่ประสานงานในกับสถานีวิทยุต่างๆในจะเข้าไปทำรายการทั่วประเทศ นั่นทำให้หนุ่มต้องเดินทางอยู่ตลอดและคอยประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องด้วย และฝ่ายเทคนิคยังมีส่วนงานพัฒนาระบบ ส่วนงานซ่อมบำรุงอีกด้วย โดยทั้งหมดนี้ใช้เวลา3ปีจากวันแรกที่ผมเข้าทำงาน ซึ่งผมได้เป็นSupervisorตามเป้าที่ผมตั้งไว้
    การเจริญเติบโตยังเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง มีระบบnetworkโดยจัดรายการที่เดียวออกหลายๆจังหวัดทั่วประเทศ และมีทีมงานเพิ่มขึ้น หลังจากนั้นผมและเพื่อนๆได้ปรับเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นManagerของแต่ละส่วนงาน ผมเป็น Manager Operayionโดยใช้เวลาแค่2ปี เร็วกว่าที่ผมตั้งเป้าไว้คือ3ปี ทั้งนนี้ทั้งนั้น คงต้องขอบคุณพี่หนุ่มที่คอยผลักดันพวกเราให้เติบโตแบบก้าวกระโดด เชื่อไหมครับว่าผมเคยได้ปรับเงินเดือน 80% และปีต่อมาได้ปรับเงินเดือน100% จากการเลื่อนตำแหน่งเป็นManager
    นั่นเป็นช่วงที่เรียกได้ว่ารุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิตผมเลยก็ว่าได้ ที่วัยรุ่นอายุไม่เกิน27แบบผมจะมีเงินเดือนหลายหมื่นบาท มีคอนโด มีรถยนต์ มีเงินทองใช้แบบสบายๆ และมีครอบครัวที่แสนสุข แต่นั่นต้องแลกมาด้วยการทำงานหนัก การเอาใจใส่งานจนแทบจะกินนอนที่ทำงาน และความรู้ที่ได้รับการสั่งสอนในวันนั้น ยังคงใช้ได้จนถึงทุกวันนี้ ผมภาคภูมิใจในตัวเองอย่างมาก ที่เด็กที่เกือบเรียนไม่จบ ปวส.แบบผม จะประสบความสำเร็จได้ถึงขนาดนี้ ต้องขอย้ำครับว่าพี่หนุ่ม(หัวหน้าผม) เป็นผู้มีพระคุณที่ทำให้ผมเป็นผมได้ทุกวันนี้ พี่หนุ่มเป็นมากกว่าพี่ มากกว่าเจ้านาย แม้ว่าตอนนี้ผมจะไม่ได้เจอพี่หนุ่มเลย แต่ผมยังระลึกถึงบุญคุณที่พี่หนุ่มได้ให้กับผมอยู่เสมอ
     ผมมีงานนอกทำอีกหลายอย่างที่เพิ่มรายได้ให้กับผม ถ่้ามีโอกาสจะมาเล่าให้ฟังในคราวหน้าน่ะครับ และนั้นคือความรุ่งเรื่องในชีวิต ผมอาจเป็นคนโชคดีที่มีเจ้านายดี จังหวะเข้าทำงานที่ดี โอกาสดีๆ เพื่อนดีๆ และมีครอบครัวที่มีความสุข สำหรับผมแล้วช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เป็นช่วงที่ผมภาคภูมิใจอยู่เสมอ มันสอนให้ผมรู้ว่า หากเราต้องการจะประสบความสำเร็จ เราต้องพยายามให้เต็มที่ เหมือนประโยคที่ผมมักจะยึดเป็นคติประจำตัวคือ ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้


เมื่อมีความสำเร็จย่อมมีความล้มเหลว ชีวิตผมขึ้นไปเรียกว่าสูงสุดและวันนึงผมก็ตกลงมาอย่างรวดเร็วและรุนแรง ในช่วงตกต่ำนี้เกือบทำให้ผมฆ่าตัวตาย
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น